เรียนรู้การขายจากการขอใบเสนอราคาขนย้าย

อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ผมต้องย้ายบ้าน เลยเริ่มหาบริษัทขนย้ายของดูครับ ผมได้ศึกษาข้อมูลจากบล็อกเกอร์รุ่นพี่ในเนเวอร์ที่แนะนำให้เปรียบเทียบราคาจากหลายๆ บริษัทก่อนตัดสินใจ ผมก็เลยทำตามนั้น

ผมขอราคาจาก 5 บริษัทครับ บริษัทหนึ่งให้ขอราคาทางออนไลน์ อีกบริษัทหนึ่งให้ขอราคาโดยการนัดหมายเข้าไปดูที่บ้าน ราคาแต่ละที่ก็ไม่เท่ากัน มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

ที่สำคัญที่สุด ผมเริ่มสังเกตวิธีการขายของพนักงานขายแต่ละบริษัทครับ พนักงานขายแต่ละคนมีวิธีการขายที่แตกต่างกันมากเลยครับ ผมรู้สึกสนใจและได้เรียนรู้เรื่องการขายจากพวกเขาด้วย

✅บริษัทที่ตอบกลับเร็วกว่า ใจผมก็ไปอยู่ที่นั่นก่อน_ความเร็ว
คนไทยคงเป็นแบบนี้แหละครับ ใครตอบกลับเร็วกว่าก็มักจะถูกใจไปก่อน ผมเองก็ใจร้อนอยู่แล้วด้วย บริษัทไหนตอบกลับเร็วกว่า หรือเข้ามาดูบ้านตามนัดได้เร็วกว่า ก็ยิ่งถูกใจครับ การขายก็ขึ้นอยู่กับความเร็วเช่นกัน

✅บริษัทที่ให้เราไปเช็คเองแล้วบอกมา ผมไม่ค่อยอยากใช้บริการ_คำถามและความใส่ใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับพนักงานบริษัทขนย้ายของโดยตรง สมัยเด็กๆ เวลาจะย้ายบ้าน ผมจะหาบริษัทขนย้ายมาให้พ่อแม่เลือกใช้บริการ แต่คนตัดสินใจคือพ่อแม่ผม ครั้งนี้ผมเป็นคนรับผิดชอบเอง ผมเลยเป็นคนตัดสินใจ

การขอราคาโดยการนัดหมายเข้าไปดูที่บ้านนั้น จริงๆ แล้วเขาคือผู้เชี่ยวชาญ เราไม่ต้องไปยุ่งอะไรมากหรอกครับ แต่การขอราคาทางออนไลน์นั้น เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้บริการเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ พวกเขาให้ผมไปจัดทำรายการของเอง แล้วก็คำนวณราคาตามรายการที่ผมส่งไปโดยไม่มีคำถามเพิ่มเติมเลยครับ พวกเขาถามผมว่าต้องการกล่องประมาณกี่ใบ ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ รู้สึกอึดอัดใจมาก ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ ถ้าเขาถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผม ผมก็จะรู้สึกไว้ใจและอยากมอบหมายงานให้เขามากขึ้นครับ

✅ชอบบริษัทที่นัดหมายเข้ามาดูบ้านมากกว่าแบบออนไลน์_การเยี่ยมชมลูกค้า
การขอราคาแบบออนไลน์นั้น มีประโยชน์ทั้งต่อบริษัทขนย้ายและลูกค้า เพราะไม่ต้องมีคนเดินทางไปมา และสามารถเช็คราคาได้อย่างรวดเร็ว แต่เหมือนที่ผมบอกไปแล้ว เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมใช้บริการ ผมเลยไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจดีกว่านี้ ผมไม่รู้ว่าจะต้องใช้กล่องกี่ใบ และคิดว่าราคาอาจจะขึ้นอยู่กับจำนวนกล่องด้วย ผมเลยตอบคำถามเขาไม่ได้อย่างถูกต้อง

ส่วนพนักงานขายที่เข้ามาดูบ้านนั้น พวกเขาเห็นของต่างๆ ในบ้านแล้วก็สามารถประเมินจำนวนกล่องได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ผมก็ไม่ต้องไปนับกล่องเองด้วย ก็เลยไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย ก็เลยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ ลูกค้าก็รู้สึกสบายใจและเรียบร้อยดี

✅สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับลูกค้า_ทัศนคติของพนักงานขาย
ในมุมมองของบริษัทขนย้าย พวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ครับ พนักงานขายของบริษัทหนึ่งได้เข้ามาดูบ้านและพยายามสร้างความสัมพันธ์กับผม เขาเน้นย้ำเรื่องความน่าเชื่อถือของบริษัทเขาโดยการเล่าเรื่องตัวอย่างให้ฟัง เช่น ถ้าพนักงานขนย้ายทำงานไม่ดี แล้วลูกค้าโทรมาบ่น เขาจะไปบอกพนักงานว่า ‘ไอ้XXX เอ็งทำงานไม่ดีเหรอวะ’ เพื่อให้พนักงานทำงานอย่างเต็มที่

จุดประสงค์ของเขานั้นดีครับ เขาต้องการสร้างความน่าเชื่อถือและความสนิทสนมกับลูกค้า แต่ไม่ว่าจุดประสงค์จะเป็นอย่างไร การใช้คำหยาบนั้นไม่เหมาะสมครับ ผมเองก็ดูยูทูปแล้วก็หัวเราะกับคำหยาบอยู่บ่อยๆ แต่ในสถานการณ์ทางธุรกิจแบบนี้ ไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างไร การใช้คำหยาบก็ไม่ควรทำครับ

สุดท้ายแล้ว ผมเลือกใช้บริการของบริษัทไหนล่ะครับ ก็คือบริษัทที่เข้ามาดูบ้านเป็นที่หลังสุดครับ แม้ว่าจะเลื่อนวันนัดหมายไปบ้าง แต่เขาก็อธิบายเหตุผลที่ต้องเลื่อนได้อย่างดี ราคาอยู่กลางๆ แต่จัดการเรื่องรถและจำนวนคนได้อย่างเหมาะสมที่สุดครับ ไม่มีการเพิ่มราคาโดยไม่มีเหตุผล เขาแสดงตารางราคาของบริษัทให้ดูและอธิบายเหตุผลของราคาต่างๆ และดูของต่างๆ ในบ้านพร้อมกับอธิบายว่าจะแพ็คของอย่างไร สุดท้ายแล้ว การเยี่ยมชมลูกค้า ความใส่ใจ และทัศนคติ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกใช้บริการครับ ราคาอาจจะไม่ถูกที่สุด แต่ผมก็ตัดสินใจเลือกใช้บริการเขา ซึ่งมันก็สอนให้ผมรู้ว่าราคาไม่ได้เป็นทุกอย่าง

ผมพยายามเรียนรู้อยู่เสมอ ในสถานการณ์แบบนี้ผมก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผมรู้สึกขอบคุณที่ยังมีโอกาสได้ย้ายบ้าน และยังได้เรียนรู้และพัฒนาความสามารถด้านงานด้วย ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ ครับ